ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ใน #กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ถึงประเด็นเสนอ พรบ.นิรโทษกรรม ว่า เราไม่ยุ่งเรื่องนี้ ทำให้เกิดความขัดแย้ง ผมคิดว่าอันนี้ไม่ใช่ทีเดียว ถ้าบอกว่าเราไม่ทำอะไรเลย มันจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ในอนาคตถ้าหากเราจะยุติความขัดแย้ง การนิรโทษกรรมจะเป็นประตูบานแรก มันมีรายละเอียดต้องคุยกัน
วานนี้ (28 พฤศจิกายน 66) นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมพูดคุยกับนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการ 'กรรมกรข่าว คุยนอกจอ' ถึงประเด็นการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ว่า
ถ้าจะสร้างความปรองดองก็ควรเริ่มที่การนิรโทษกรรมคดี เพื่อให้ประเทศไทยมีสมาธิในการทำเรื่องอื่น ตนคิดว่าความขัดแย้งทางการเมืองควรปลดล็อกออกไป จะได้มีเวลาไปคิดทำเรื่องอื่น แต่หากกดเอาไว้สักวันหนึ่งอาจเป็นระเบิดเวลาก็ได้
นายชัยธวัช ระบุว่า การนิรโทษกรรมตามร่างกฎหมายนี้ กรอบกฎหมายหลัก ๆ ไม่เกี่ยวกับคดีทุจริต และยกเว้นความผิดอาญา ม.113 คือ กบฏ, รัฐประหาร, ความผิดที่ถึงแก่ชีวิต และเจ้าหน้าที่ใช้กำลังในสลายการชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลหากกฎหมายได้รับการพิจารณาสามารถพูดคุยกันต่อได้ในชั้นกรรมาธิการ
เมื่อถามถึง การนิรโทษกรรมความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 อาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง
นายชัยธวัช ระบุว่า มองได้หลายมุม แต่ขอเรียนว่า คดี ม.112 สังคมไทยเคยนิรโทษกรรมมาแล้ว หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม คดี 112 เป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลขณะนั้น เห็นว่าควรนิรโทษกรรมเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง
นอกจากนี้ ในอดีตยังเคยมีการนิรโทษกรรมมาแล้วตอนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และตามคำสั่ง 66 / 23 ซึ่งมีการกระทำรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ
นอกจากนี้ ต้องยอมรับว่าความผิด ม.112 ก็มีฐานคิดมาจากการเมือง เกิดจากการแสดงออก การแสดงความคิดเห็น ดังนั้น ไม่ใช่อาชญากรรม ตนจึงคิดว่ามีเหตุผลในการนิรโทษกรรม
นายชัยธวัช ยังกล่าวว่า อาจมีฝ่ายบางฝ่าย เช่น ฝ่ายความมั่นคงอาจเชื่อว่าการใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และรุนแรงแบบนี้ จะยุติพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ได้ ฃ
แต่หากมองอีกมุม คนมองว่าจะเป็นการสร้างความสะสมความคิดเห็นแตกต่างทางการเมืองที่รุนแรงต่อกันเพิ่มมากขึ้น และตนมองว่า การที่น้ำมันเดือดอยู่แล้วน้ำมันเปิดรูระบาย ให้เปิดในอนาคต และสร้างกระบวนการให้พูดคุยกันแบบประชาธิปไตยจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวมากกว่า
เมื่อถามว่าหากมีการนิรโทษกรรม ม.112 แล้ว ในอนาคตอาจมีการละเมิดทำผิดกันมากขึ้นอีก
นายชัยธวัช ระบุว่า เป็นประเด็นที่ต้องแลกเปลี่ยนกัน และเป็นสาเหตุที่พรรคก้าวไกลต้องไปพูดคุยกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เห็นต่างกันในประเด็นนี้ นี่คือที่มาว่าทำไมตนถึงไปขอความเห็นจากทางพุทธะอิสระ, คนที่เคยเข้าร่วมกับกุล่มกปปส พันธมิตร แกนนำเสื้อแดง นักกฎหมาย รวมถึงนักสิทธิฯ ซึ่งมองว่าการพูดคุยนี้เป็นประโยชน์มาก ได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง
นอกจากนี้ ยังต้องเอาประเด็นเหล่านี้ ไปคุยกับฝั่งนักศึกษาว่า เห็นอย่างไร มีข้อเสนออย่างไร รวมทั้วต้องหากลไกพูดคุยหลังนิรโทษกรรม เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อกันมากขึ้นอีกด้วย
ทั้งนี้ จากการคุยกับหลายฝ่าย ตนได้รู้ว่าสิ่งสำคัญคือเมื่อนิรโทษกรรมแล้ว จะกลับมาทำแบบเดิมหรือไม่ จึงได้แนวคิดว่า จะทำอย่างไรเพื่อเป็นหลักประกัน ที่จะไม่ทำแบบเดิมอีกหลังนิรโทษกรรม
นายชัยธวัช ยืนยันว่า เราไม่ได้เสนอเรื่องนี้เพื่อมาหาเสียงแต่คิดว่าการนิรโทษกรรม มีความจำเป็น และเป็นประตูบานแรกที่จะสร้างความปรองดองทางการเมือง
เมื่อถามว่า จึงเป็นที่ไปที่มาของการถูกมองว่า ช่วยเหลือพวกพ้องตัวเอง
นายชัยธวัช ยืนยันว่า หากดูเนื้อหาสาระ คนที่ได้ประโยชน์อยู่ทุกฝ่าย ไม่มีใครได้ได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว หรือคนใดคนหนึ่ง เราต้องการเห็นการคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน เราไม่ปารถนาจะเห็นเพียงคนใดคนหนึ่งได้รับความยุติธรรมอยู่คนเดียว ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว จึงมองว่าควรใช้คำว่าคดีทางความคิด
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/political/mo...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3