เมื่อกลางดึก เวลาประมาณเที่ยงคืน คืนวันที่ 4 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุสลด บริเวณถนนเพชรเกษม กม.331+450 ด้านซ้าย (ไหล่ทาง) หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร
โดยที่เกิดเหตุ รถทัวร์โดยสารประจำทาง (กรุงเทพฯ-นาทวี) ยี่ห้อ วอลโว่ สีฟ้า-ขาว เสียหลัก ลงไหล่ทางชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 31 คน ผู้เสียชีวิต 14 คน รวมผู้โดยสารพร้อมคนขับ จำนวน 49 ราย
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำคนเจ็บส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และโรงพยาบาลทับสะแก
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า สภาพถนนเป็นทางตรง จำนวน 4 ช่องจราจร เกาะกลางแบบร่อง ผิวทางแอสฟัลท์ โดยที่เกิดเหตุผิวทางดี ไม่มีหลุมบ่อ สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง แต่เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเกิดจากหลับใน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ โดยนายบุญชวน มักน้อย เจ้าของร้านอาหารแกงใต้ 13 หมูป่า (ห้วยยาง) กล่าวว่า
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 14 ราย ตนในฐานะชาวบ้านในพื้นที่ อยากเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวังการเดินทาง เส้นทางสายใต้ในช่วงอำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กม.333-335 เนื่องจาก เส้นทางเป็นทางตรงยาว และมีเนินเป็นช่วง ๆ บริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่คนขับรถมักอ่อนเพลียเหนื่อยล้า และเกิดอาการหลับในได้
ส่วนตัวแล้ว สูญเสียครอบครัวทั้งพี่ชาย และน้องสาว ไปกับอุบัติเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงกับจุดที่รถทัวร์ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้ เช่นเดียวกัน
ต่อมา ที่โรงพยาบาลทับสะแก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคมกฤต เจริญพัฒนาสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม พร้อมจัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อสรุปสถานการณ์ ตลอดจนความช่วยเหลือทั้งหมดให้กับผู้ประสบเหตุ
โดยนายคมกฤต เปิดเผยว่า สำหรับอุบัติเหตุในครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.20 น. วานนี้ (5 ธ.ค. 66) บริเวณหลักกม. 331+450 ขาล่องใต้ ถ.เพชรเกษม บริเวณทางเข้าหาดวนกร มีผู้โดยสารทั้งหมดจำนวน 49 ราย (รวมพลขับ)
ผู้เสียชีวิต จำนวน 14 ราย
ผู้บาดเจ็บ จำนวน 31 ราย โดย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ 16 ราย รพ.ทับสะแก 5 ราย และแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ 10 ราย
ขณะเดียวกัน ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้คอยอำนวยความสะดวกแก่ญาติผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
เนื่องจากผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพี่น้องชาวมุสลิม จะต้องทำพิธีทางศาสนา ภายในเวลา 24 ชม.โดยทางโรงพยาบาลทับสะแก ได้นำรายชื่อผู้โดยสารทั้งหมด มาติดประกาศไว้ เพื่อให้ญาติได้ตรวจสอบข้อมูลที่บริเวณหน้าอาคารอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน
นายสาธิต พันโญศรัณยา ต้วแทนบริษัทรถทัวร์ ศรีสยามฯ ได้บอกถึงการเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ว่า
บริษัทรถทัวร์ ศรีสยามฯ ซึ่งเป็นบริษัทรถที่เกิดอุบัติเหตุ ได้มอบหมายให้ตนเป็นตัวแทนในพื้นที่ดูแลผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต
โดยเบื้องต้น มอบค่าสินไหมให้ครอบครัวละ 5000 บาท และดำเนินการส่งร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาฟรี โดยไม่คิดมูลค่า พร้อมทั้งคอยอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ โดยบริษัทพร้อมรับผิดชอบ และดูแลทุกอย่าง
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเรื่องประกันภัย พบว่า รถคันดังกล่าวได้ทำประกันภัยภาคบังคับและภาคสมัครใจกับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด โดยความคุ้มครองเบื้องต้น กรณีเสียชีวิต 600,000 บาท/คน กรณีได้รับความเสียหายต่อร่างกายและอนามัย ตาม พ.ร.บ. จะได้รับความคุ้มครอง 80,000 บาท/คน
ส่วนบรรยากาศที่โรงพยาบาลทับสะแก เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติต่างทยอยมาติดต่อเพื่อขอเยื่ยมผู้บาดเจ็บ และขอรับร่างผู้เสียชีวิต บางรายถึงกับร้องไห้จนเป็นลม
นางสาวธมลวัลย์ หลักชัย อายุ 54 ปี หนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า
ตนมีศักดิ์เป็นป้าของ นาวสาวกัลยากร พูลเอียด หรือ น้องดอกเข็ม อายุ 17 ปี ซึ่งเดินทางพร้อมกับแม่ชื่อ นางละมัย พูลเอียด อายุ 54 ปี เพื่อไปมอบตัวที่มหาวิทยาลัยศิลปากร จ.นครปฐม
ขณะกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 2 คนนั่งบนรถทัวร์คันเกิดเหตุ เลขที่นั่งเลขที่ 5 และ 6 กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตทั้ง 2 คน
ซึ่งพ่อของน้องดอกเข็มเกิดอาการช็อก เมื่อทราบข่าวร้ายที่ต้องสูญเสียภรรยา และลูกสาวเพียงคนเดียว ไปพร้อมกัน จนไม่สามารถพูดคุยกับใครได้ ตนซึ่งเป็นป้า และย้ายมาอยู่อาศัยที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงรับเป็นธุระจัดการเรื่องรับร่างให้ ซึ่งทางครอบครัวจะนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.นครศรีธรรมราช
สำหรับน้องดอกเข็มเป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี และมีอนาคตที่สดใส ไม่น่าจะต้องมาจากไปก่อนเวลาอันควร ตนย้ายมาอยู่ประจวบคีรีขันธ์นาน ทำให้ไม่สนิทกับหลานนัก แต่ทราบข่าวมาตลอด และล่าสุด ที่หลานสอบติดมหาวิทยาลัย ทางครอบครัวยังส่งข่าวมาบอกซึ่งตนก็ยินดี กระทั่งมีข่าวร้ายเกิดขึ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 6 ธันวาคม 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3