เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) 17 ตัวประกันคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาส ได้เดินถึงไทยแล้ว ทั้งหมดต่างดีใจ ท่ามกลางการรอต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่น
โดยกลุ่มตัวประกันคนไทยได้เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบิน เอ็ลอัลอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 81 เมื่อเวลา 15.10 น. ซึ่งมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯและรัฐมนตรีต่างประเทศเดินทางไปรับด้วยตนเอง ได้นำแรงงานไทยทั้ง 17 คน เดินทางเข้ามายังอาคารผู้โดยสารขาเข้า ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานขอต้อนรับ ก่อนเข้ารับการตรวจสุขภาพเบื้องต้น
ต่อมา เวลา 17.00 น. นายก้อง พนาสุดละไม บิดาของนายพรสวรรค์ ปินะกาโล อายุ 30 ปี เข้าสวมกอดลูกชาย พร้อมร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ หลังจากลูก ถูกกลุ่มฮามาส จับเป็นตัวประกันและถูกปล่อยตัวออกมาปลอดภัย ก่อนที่นายพรสวรรค์จะก้มกราบเท้าพ่อ พร้อมร้องไห้ออกเช่นเดียวกัน
นายก้อง กล่าวว่า วันนี้เตรียมของไว้ให้ลูกชาย แต่ไม่บอกว่าเป็นอะไร เป็นของที่ลูกชายชอบมาก ความรู้สึกตอนนี้มีความสุขมาก เหมือนได้ของที่หายไปกลับคืนมา ช่วงที่รู้ว่าลูกชายถูกจับเป็นตัวประกัน มีรายชื่อ ยอมรับว่าทุกข์ใจมากจริงๆ คิดอะไรไม่ออก ที่มีกระเเสข่าวว่าเจอศพคนไทย คิดลึกๆ ในใจว่าอาจจะเป็นลูกชายตัวเอง แต่พอไปตรวจแล้ว ดีเอ็นเอไม่ตรงกัน ทำให้ตัวเองและครอบครัวมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง จนทหารไปเจอลูกชายในโรงพยาบาล ถึงรู้ว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ จึงอยากบอกลูกชายว่า “กลับบ้านเรานะลูก พ่อแม่และคนที่บ้านรออยู่”
นายพรสวรรค์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกภาคส่วนที่คอยติดตามและให้กำลังใจคนไทย ที่อยู่ในอิสราเอล ถ้าไม่มีทุกคน ตัวเองคงไม่ได้กลับมาประเทศไทย ตอนนี้ดีใจมากๆ ดีใจที่สุดในชีวิตไม่รู้จะพูดคำไหนได้มากกว่าคำว่าดีใจ
“สำหรับความรู้สึก 2 -3 อาทิตย์ที่ผ่านมาอาการดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าจะดีไปมากกว่านั้น ถ้าเพื่อนแรงงานไทยในอิสราเอลไม่เสียชีวิต ดีที่หลายคนรอดและเสียใจกับคนที่เสียชีวิตด้วย ส่วนตัวในสถานการณ์ดังกล่าว ก็กลัวที่จะไม่ได้เจอครอบครัวอยู่เหมือนกัน พยายามไม่คิดเยอะ คิดแค่วันต่อวันเท่านั้น” นายพรสวรรค์กล่าว
ส่วนทางด้านคุณยายนางน้อย ปัญตาเทสัง อายุ 84 ปี (คนใส่แมส) เล่าว่า คุณพรสวรรค์เป็นหลานชาย ไปทำงานเป็นเกษตรกรที่อิสราเอลได้เกือบ 5 ปีแล้ว คอยส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวมาตลอด วันที่เกิดเหตุครอบครัวรู้ข่าวก็ตกใจ และพยายามตามหา ว่าหลานชายอยู่ที่จุดใดได้รับการช่วยเหลือหรือไม่
จนกระทั่งผ่านไปหลายวันก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าหลานชายเป็นอย่างไร และมีเจ้าหน้าที่ตรวจดีเอ็นเอ ก็เริ่มสงสัยว่าหลานจะเป็นอะไรหรือไม่ หรือจะเสียชีวิต ตอนนั้นทั้งครอบครัวก็ลุ้นว่าผลดีเอ็นเอ จนมาทราบผลเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมาว่าหลานชายถูกจับตัวประกันและได้รับการปล่อยตัวอาการปลอดภัยแล้วตอนนั้นยายและครอบครัวดีใจเป็นอย่างมาก เพราะทำใจไว้แล้วว่าหากหาหลานไม่เจอก็คงเสียชีวิต เพราะคนในหมู่บ้านที่ไปทำงานด้วยกันก็เสียชีวิต
จากนี้ยายและครอบครัวคุยกันว่าจะไม่ให้หลานกลับกลับไปทำงานที่ประเทศนี้อีก หากมีสงครามแบบนี้ เพราะกังวลต่อความปลอดภัยในชีวิต
“ยายฟังนายกรัฐมนตรีพูดว่าอย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง ยายก็คิดว่าหากหลานจะไปทำงานต่างประเทศอีกก็อาจจะไปประเทศอื่นที่ไม่มีความเสี่ยงแบบนี้”
และในวันนี้มารอหลาน ยอมรับว่าคนแก่สองคนตื่นเต้น เป็นอย่างมากนอนไม่หลับ เมื่อรู้ว่าจะได้เดินทางมาสนามบิน ตื่นเต้นอยากเห็นหน้าหลานและยังกังวลใจว่าหลานจะปลอดภัยจริงหรือไม่ จะเชื่อว่าหลานปลอดภัยก็ต่อเมื่อรู้ว่าเครื่องบินที่มาถึงเมืองไทยแล้ว
ทั้งนี้ ยายและครอบครัวได้เตรียมสายสิญจน์ผูกข้อมือมาผูกข้อมือเรียกขวัญหลานตามประเพณีอีสาน
ขณะที่นางลำพอง ปินะกาโล อายุ 51 ปี มารดาของนายพรสวรรค์ เมื่อเห็นลูกชายก็รีบวิ่งเข้ามาสวมกอด พร้อมกับร้องไห้ทั้งน้ำตา ก่อนที่จะมอบสายสิญจน์ให้ เพื่อเป็นสิริมงคลต่อตัวลูกชายด้วย โดยแม่บอกว่ากลับบ้านเราแล้วนะลูก
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/social/morni...
-------------------------
#เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 1 ธันวาคม 2566
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/mor...
facebook : / morningnewstv3
Twitter : / morningnewstv3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3
Tiktok : / morningnewsch3
#3PlusNews #ข่าวช่อง3